ความเชื่อผิดๆเกี่ยวกัยกล้วยไม้

ลองมาดูความเชื่อผิดเกี่ยวกับกล้วยไม้ กันคะ

1. เชื่อว่า กล้วยไม้ไม่ต้องการแดด

ผิดถนัดเลย คะ กล้วยไม้ ถ้าไม่ได้รับแสงแดดที่เหมาะ จะไม่มีการสังเคราะห์แสง เพราะการสังเคราะห์แสงจะเกิดได้ต้องอาศัยแสง เป็นตัวกระตุ้น คะ ถ้าไม่ได้รับแสง กล้วยไม้จะไม่มีการสังเคราะห์แสง ซึ่งก็หมายความว่า กล้วยไม้จะไม่เจริญ ทำให้ เราไม่เห็นดอก คะ

2. เชื่อว่า ปลูกกล้วยไม้ ไม่ต้องใส่ปุ๋ยก็ได้ อยู่ตามธรรมชาติ ไม่เห็นมีใครใส่ปุ๋ยเลย ยังออกดอก


ผิดเลย คะ ในธรรมดา กล้วยไม้ที่เกาะที่ คบ คา ต้นไม้ เมื่อฝนตก จะมีความชื้น ทำให้ จุลลินทรีย์ที่เกาะตามเศษใบไม้ ทำการย่อยสลาย เศษใบไม้ต่างๆ มูลสัตว์ต่างๆ ทำให้เกิด การหมักหมม นั้นหละ ปุ๋ยชั้นดีของกล้วยไม้เลย คะ

3. เชื่อว่าไม่ต้องใส่เครื่องปลูกเลย กล้วยไม้ก็งามได้

ผิดเลย คะ แม้กล้วยไม้ที่มีรากอากาศ จะไม่ต้องใส่เครื่องปลูกเลยก็อยู่ได้ แต่ ก่อนที่จะโตขนาดนั้น ควรมีเครื่องปลูกไว้บ้าง คะ เพื่อเป็นที่สะสมของปุ๋ยคะ

4. เชื่อว่า กล้วยไม้จะดึงไนโตรเจน จากฝน เมื่อ ฝน ตก ทำให้ไม่ต้องใส่ปุ๋ยเมื่อฝนตก


ผิดเลย คะ ในฝนไม่มีไนโตรเจน คะ แต่ในอากาศจะมีไนโตรเจนคะ

เมื่อฝนตก ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า จะดึงเอาไนโตรเจนในอากาศลงสู่พื้นดิน คะ ในน้ำฝน อย่างที่ทราบกันดี น้ำฝนก็คือ น้ำกลั่นที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ฉะนั้น ในน้ำฝน จึงไม่มีไนโตรเจน คะ

อ้าว งั้นเมื่อฝนตก ก็จับกับไนโตรเจนในอากาศได้ นิ ไม่ได้ คะ น้ำ มีสูตรทางเคมีว่า H2O ซึ่งเสถียรแล้วคะ จึงไม่สามารถจับเข้ากับ ไนโตรเจน ซึ่งมีค่าออกซิเดชั่น -3 และน้ำซึ่งมีสูตรโมเลกุลที่เสถียรแล้ว ทำให้ไม่สามารถจับเข้ากับไนโตรเจนได้คะ

และที่สำคัญ พืชในโลก มี แค่ 2 ชนิดเท่านั้นที่สามารถดึงไนโตรเจนในธรรมชาติไปใช้ได้เลย คือ ถั่ว( ใช้ ปมรากถั่ว ซึ่งมีแบคทีเรียชนิดหนึ่งเป็นตัวจับไนโตรเจน ) และ สาหร่าย

สรุป บนบก จะมีถั่ว เท่านั้นที่สามารถนำไนโตรเจนในธรรมชาติไปใช้ได้เลย

และ ในน้ำ มีเพียงสาหร่ายเท่านั้นที่สามารถดึงไนโตรเจนในน้ำไปใช้ได้เลย


จะเห็นได้จาก ในระบบบำบัดน้ำเสีย จะมี บ่อพักน้ำ ในบ่อพัก จะมี ปลา และ สาหร่าย คะ สาหร่ายนั้นแหละเป็นตัวดึงไนโตรเจน ในน้ำออกเพื่อลดค่า ไนโตรเจนในน้ำ ซึ่งเป็นตัวการทำให้น้ำเสีย คือ เกิด ไนไตรท( NO2) ไนเตรท( NO3) แอมโมเนีย(NH4)

การบำบัดน้ำเสีย เค้าจะใช้วิธีดังนี้คะ เริ่มจาก แปลงแอมโมเนีย ให้เป็น ไนไตรท์ โดยการเติม ออกซิเจนเข้าไปในน้ำ โดยการตีน้ำเพิ่มออกซิเจนเข้าไป เพื่อไปจับกับไนโตรเจน ทำให้แปลงสภาพจากแอมโมเนียมาเป็นไนไตรท์ และจากไนไตรท์ สามารถแปลงเป็นไนเตรท ได้ โดยการเติม ออกซิเจนเข้าไปอีกทีคะ คือเพิ่มค่า O เข้าไปอีก ทำให้แปลงจากไนไตรท์เป็นไนเตรท ซึ่งไม่เสถียร ทำให้ดึงไนโตรเจนออกง่ายขึ้น การดึงไนโตรเจนออก ก็ใช้วิธีพักน้ำ คิอ ใช้สาหร่ายดึง คะ


ฉะนั้น กล้วยไม้ ไม่สามารถดึงไนโตรเจนมาใช้ได้ตรงๆ คะ

และในน้ำฝน ไม่มีไนโตรเจน แน่นอน คะ

สมมุติ ง่ายๆ ถ้าในน้ำฝนมีไนโตรเจน จริง เราเก็บน้ำฝนไว้กิน ถ้าเราเก็บน้ำสักหลายวันกินไม่ได้แล้วคะ มันจะเปรี้ยว เพราะจะกลายเป็นแอมโมเนียไปแล้ว คะ

5. ใส่ปุ๋ยชีวภาพแล้วทำให้เครื่องปลูกพังเร็ว ฉะนั้น ปุ๋ยชีวภาพ ไม่ควรใช้

ผิดคะ ปุ๋ยชีวภาพ ทำให้เครื่องปลูกพังเร็วจริงคะ แต่การพังของเครื่องปลูกเกิดจาก การย่อยสลายของจุลลินทรีย์ คะ เมื่อเราใส่ปุ๋ย กล้วยไม้จะนำไปใช้ส่วนหนึ่ง คะ ที่เหลือจะตกค้างในเครื่องปลูก ( ฉะนั้นการปลูกกล้วยไม้ ควรมีเครื่องปลูกบ้าง คะเพื่อเป็นที่สะสมปุ๋ยคะ)

ปุ๋ยชีวภาพ เกิดจากการหมักหมมของจุลลินทรีย์ ฉะนั้นในปุ๋ยจะมีจุลลินทรีย์ คะ เมื่อมีการสะสมในเครื่องปลูก ก็เป็นหน้าที่ของผู้ย่อยสลายสุดท้ายของห่วงโซ่อาหาร (จุลลินทรีย์ ) ทำให้ไม่เกิดการเน่าเสีย หรือเชื้อราขึ้นได้คะ


6. เมื่อได้กล้วยไม้ป่ามา ให้แช่น้ำยาเร่งราก เพื่อรากจะได้แทงเร็วขึ้นทำให้ต้นแข็งแรงขึ้น


ผิดเลย คะ กล้วยไม้ป่า เมื่อได้มา ควรทำการพักฟื้น ให้แข็งแรงก่อนคะ เมื่อแข็งแรงแล้ว รากจะแทงออกมาเอง คะ โดยที่เราไม่ต้องใช้ยาเร่งรากเลย คะ

เหมือนกับ คน สัตว์ คะ เมื่อ ป่วย ไม่สบาย ได้รับบาดเจ็บ ต้องพักฟื้นก่อน จนร่างกายแข็งแรง แล้วจึง ลุกขึ้นมากินอาหาร คะ

วิธีที่ถูก ควรแช่ปุ๋ยก่อนคะ เพื่อให้ปุ๋ยซึมเข้าไป ทำให้ กล้วยไม้ได้รับสารอาหาร เมื่อกล้วยไม้แข็งแรง รากใหม่ก็จะแทงออกมาเองคะ เหมือนคน ที่ ป่วย ต้องการน้ำเกลือเพื่อทำให้ร่างกายได้รับสารอาหาร คะ

ปุ๋ยที่ควรใช้ คือ ปุ๋ย ที่สามารถซึมผ่านได้เลย คะ หรือให้ปุ๋ยทางใบ คะ